วันจันทร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2560

Canon เปิดตัว PowerShot G9 X Mark II ที่มีระบบกันสั่น และการถ่ายภาพ RAW ต่อเนื่อง 8 เฟรมต่อวินาที

Canon เปิดตัว PowerShot G9 X Mark II ที่มีระบบกันสั่น และการถ่ายภาพ RAW ต่อเนื่อง 8 เฟรมต่อวินาที



Canon เปิดตัว PowerShot G9 X Mark II ที่มีระบบกันสั่น และการถ่ายภาพ RAW ต่อเนื่อง 8 เฟรมต่อวินาที

Canon   เปิดตัวกล้องดิจิตอลผู้สืบทอดสายเลือด PowerShot G9 X ในชื่อ G9 X Mark II ที่ยังคงรักษาความโดดเด่นใน เรื่องของขนาดตัวกล้องที่เล็ก, น้ำหนักเบา และเซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1 นิ้ว 
Canon PowerShot G9 X Mark II มาพร้อมกับความโดดเด่นที่มี CMOS sensor ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียดภาพ 20.2 ล้านพิกเซล, ระบบประมวลผล DIGIC 7, เลนส์ช่วง 28-84 มิลลิเมตร f2.0-f4.9 ออปติคอลซูม 3x, ถ่ายภาพ RAW ต่อเนื่อง 8.2 เฟรมต่อ 1 วินาที, หน้าจอสัมผัสขนาด 3.0 นิ้ว, ถ่ายวีดีโอความละเอียด Full HD และระบบการเชื่อมต่อ Wi-Fi กับ NFC
นอกจากนี้ Canon ยังเพิ่มระบบกันสั่นไหวของภาพ ทั้งหน้าและหลังได้ 3.5 Stops, ตัวเลือกการปรับแต่งภาพมากยิ่งขึ้น, โฟกัสติดตามอัตโนมัติ, ฉลาดในการเลือกโหมดถ่ายภาพได้ดียิ่งขึ้นในระบบ Auto และมีระบบแปลงไฟล์ Raw ในตัวกล้อง ซึ่ง Canon PowerShot G9 X Mark II จะเริ่มขายในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ (ในต่างประเทศ ซึ่งในเมืองไทยคงต้องรอต่อไป) โดยจะมีสีให้เลือกเพียง 2 สีเท่านั้น นั่นคือ สีดำ และสีเงิน ในราคา $529 หรือประมาณ 18,990 บาท

Canon เปิดตัว PowerShot G9 X Mark II ที่มีระบบกันสั่น และการถ่ายภาพ RAW ต่อเนื่อง 8 เฟรมต่อวินาที



BeoSound Shape ลำโพงงานศิลป์ชิ้นเอกจาก B&O ตกแต่งบ้านให้สวยงามมีระดับ

BeoSound Shape ลำโพงงานศิลป์ชิ้นเอกจาก B&O ตกแต่งบ้านให้สวยงามมีระดับ



BeoSound Shape ลำโพงงานศิลป์ชิ้นเอกจาก B&O ตกแต่งบ้านให้สวยงามมีระดับ

Bang & Olufsen (หรือ B&O) เป็นแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำ ที่ชอบมีดีไซน์สินค้าที่เก๋ๆ (และราคาเก๋ๆ) มาให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ และโมเดลล่าสุด ที่เพิ่งออกมา ก็ทำให้ประทับใจใครหลายๆ คนมากเลยทีเดียว
อย่างที่เห็นในภาพ สินค้าใหม่ของทาง B&O เป็นลำโพงไร้สาย ที่ชื่อว่า BeoSound Shape ที่มีดีไซน์เป็นแผ่นหกเหลี่ยมเรียงติดๆ กันเหมือนงานศิลปะชิ้นหนึ่งๆ ที่เมื่อดูจากภายนอกแล้ว ดูไม่ออกแน่นอนว่าเป็นลำโพง และเมื่อนำไปติดตั้งที่ผนังบ้านแล้ว ก็จะกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งสำหรับตกแต่งบ้านอย่างสมบูรณ์แบบ
ภายใต้แผ่นหกเหลี่ยมนี้ แต่ละแผ่นจะแบ่งฮาร์ดแวร์ต่างๆ ออกเป็นแผ่นละส่วน ซึ่งใน 1 ชุด จะมี 8 ชิ้น ประกอบไปด้วย ลำโพงสปีกเกอร์ 4 ตัว, 2 อะคูสติกแดมเปอร์, 1 แอมพลิฟายเออร์ และอีก 1 BeoSound Core ซึ่งเป็นฮาร์ดแวร์สำหรับการเชื่อมต่อไร้สายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น AirPlay, Chromecast, Spotify Connect และ Bluetooth 4.1 รวมทั้งรองรับระบบการเชื่อมต่อ Bang & Olufsen’s BeoLink อีกด้วย แต่ก็ไม่ได้รองรับเพียงการเชื่อมต่อไร้สายเท่านั้น ตัวอุปกรณ์ยังมีพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อสายสำหรับใช้งาน Ethernet หรือ Line-in ต่างๆ ได้ แต่คงจะทำให้ไม่เนียนกับการเป็นเฟอร์นิเจอร์ชั้นหนึ่งซักเท่าไหร่


ส่วนด้านราคานั้น ลำโพง BeoSound Shape ชุดหนึ่ง จะมีราคาอยู่ที่ €4,000 หรือประมาณเกือบ 150,000 บาทไทย ซึ่งถ้าหากจะขยายตัวลำโพงให้มากขึ้น BeoSound Shape ชุดหนึ่ง ก็สามารถรองรับแอมพลิฟายเออร์ได้สูงสุดถึง 11 ตัวด้วยกัน เท่ากับว่ารองรับลำโพงสปีกเกอร์สูงสุด 44 ตัว
ด้านคุณภาพเสียงเรายังไม่ทราบว่าเป็นยังไงบ้าง แต่ด้านดีไซน์เราว่า มันดูดีมากๆ เลยล่ะ โดยใครที่สนใจ ทาง Bang & Olufsen น่าจะเตรียมขาย BeoSound Shape ตัวนี้ ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ รอติดตามชมกันได้เลย


ที่มา :  www.theverge.com

เปรียบเทียบ LG OLED TV 2017 ต่างกับ Super UHD TV อย่างไร? [Advertorial]


เปรียบเทียบ LG OLED TV 2017 ต่างกับ Super UHD TV อย่างไร? [Advertorial]


เปรียบเทียบ LG OLED TV 2017 ต่างกับ Super UHD TV อย่างไร? [Advertorial]




ถึงแม้ว่า LG OLED TV จะเป็นจุดแข็งของทาง LG ที่เทคโนโลยีค่อนข้างโดดเด่นในตลาดทีวี จนได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย มาหลายปีติดต่อกัน แต่ก็ยังไม่ทิ้งเทคโนโลยี LCD ในท้องตลาด ที่ในปี 2017 นี้ LG จะออกไลน์สินค้า OLED TV เวอร์ชั่น 2017 มาทั้งเซ็ตแล้ว ก็ยังออกไลน์สินค้าของทางฝั่ง Super UHD TV 2017 ที่เป็นการต่อยอดมาจากเทคโนโลยี Quantum Dot LED TV ออกมาเป็นทางเลื่อกให้กับผู้บริโภคอย่างเราๆ อีกด้วย ซึ่งเอาจริงๆ แล้ว ในแง่ของการใช้งานผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่าทีวีนั้น ดูเผินๆ แล้ว แทบจะไม่ต่างกันเลย แล้วทำไมต้องออกไลน์สินค้าทีวีระดับพรีเมี่ยมมาทั้ง 2 แบบด้วย บทความนี้ จะขอเล่าให้ฟังเป็นเรื่องๆ ไปละกันครับ
โดยผลิตภัณฑ์ทีวี ที่เอามาเปรียบเทียบกันขอยกเป็น LG OLED TV รุ่น 77G7T และ LG Super UHD TV รุ่น 86SJ957T ที่ทั้ง 2 รุ่นได้เปิดขายในปี 2017 นี้ และมีช่วงราคาที่ใกล้เคียงกัน มาให้ชมกันครับ ก่อนอื่นดูรายละเอียดคร่าวๆ ของทั้ง 2 รุ่นกันก่อน


เปรียบเทียบ LG OLED TV 2017 ต่างกับ Super UHD TV อย่างไร? [Advertorial]

ขนาดหน้าจอให้เลือก :
ชนิดของหน้าจอ :
ความละเอียดหน้าจอ :
ระบบปฏิบัติการสมาร์ททีวี :
ระบบลำโพง Speaker :
Output Power :
ฟีเจอร์อื่นๆ :

77 / 65 นิ้ว
OLED TV
3840x2160 (4K UHD 2160p)
webOS 3.5
4.2 Channel
80W (Woofer. 40W)
Active HDR with Dolby Vision™, Perfect Black, Cinematic Color, Billion Rich Colors, Ultra Luminance, Pixel Level Dimming, Dolby Atmos



ที่มา : www.flatpanelshd.com

สุดยอดแห่งความสมจริง !! TactSuit เปิดมิติใหม่ของการเล่นเกมส์ร่วมกับเครื่อง VR

สุดยอดแห่งความสมจริง !! TactSuit เปิดมิติใหม่ของการเล่นเกมส์ร่วมกับเครื่อง VR


สุดยอดแห่งความสมจริง !! TactSuit มิติใหม่ของการเล่นเกมส์ที่สมจริงมากยิ่งขึ้น         

เครื่องเล่น VR (Virtual Reality) หรือ แว่นตาแสดงภาพเสมือนจริง 
ที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการเกมส์ ทางผู้พัฒนาหลายค่าย ได้ผลิตเกมส์เพื่อเล่นบนเครื่องเล่น VR โดยเฉพาะ หากได้ลองเล่นผ่านเจ้าเครื่องนี้จะรู้สึกได้ว่า ตัวเรานั้นเข้าไปอยู่ในเกมส์จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นมุมมอง การเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกาย ที่ทำออกมาได้ดีมาก

สุดยอดแห่งความสมจริง !! TactSuit มิติใหม่ของการเล่นเกมส์ที่สมจริงมากยิ่งขึ้น


bHaptics ผู้พัฒนาจากเกาหลีใต้ ได้คิดค้นชุด TactSuit สำหรับใช้งานร่วมกับเครื่องเล่น VR โดยมีจุดสั่นตามตำแหน่งทั่วทั้งชุด จำนวน 87 จุด ประกอบด้วย ตัวแว่นตา 7 จุด ด้านหน้าและด้านหลังของเสื้อ ด้านละ 20 จุด และที่แขนข้างละ 20 จุด ตัวชุดสามารถปรับระดับแรงสั่นได้ สร้างความสมจริงให้กับการเล่นมากยิ่งขึ้น 
ในส่วนการทำงานของชุด คือ หากในเกมส์เราโดนดาบฟันจากด้านหลัง ด้านหลังของเสื้อก็จะสั่นตามรอยที่ถูกฟัน และ หากโดนแรงระเบิด จุดต่างๆ ก็จะทำงานพร้อมกัน เหมือนโดนระเบิดจริงๆ ซึ่งเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ จะพาเราก้าวไปสู่มิติใหม่ของการเล่นเกมส์ที่สมจริงมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่นั้น หากสังเกตในคลิปวีดีโอ จะเห็นได้ว่า เมื่อผู้เล่นยิงปืน จุดสั่นสะเทือนที่มือทั้งสองข้างจะทำงาน ทำให้รู้สึกถึงแรงดีดและแรงสั่นของปืน ตัวชุดมีขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา และราคาต่อชุดประมาณ $549


ที่มา :  www.engadget.com

นักวิทยาศาสตร์ คิดค้นแบตลิเธียมไอออนน้ำใหม่! ปลอดภัย และเก็บไฟได้มากขึ้น

นักวิทยาศาสตร์ คิดค้นแบตลิเธียมไอออนน้ำใหม่! 

ปลอดภัย และเก็บไฟได้มากขึ้น



นักวิทยาศาสตร์ คิดค้นแบตลิเธียมไอออนน้ำใหม่! ปลอดภัย และเก็บไฟได้มากขึ้น


พูดได้ว่า แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน (Lithium-ion) ที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางในโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คนั้น "ไม่ปลอดภัย" ก็เพราะว่า ภายในของมันมีส่วนประกอบจาก ลิเธียม (Lithium) สารเคมีที่ไวต่อปฏิกิริยาสูงมาก อาจทำให้เกิดอาการไฟลุก ตามข่าวที่เห็นกันในปัจจุบัน
แต่เมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์ ได้คิดค้น แบตเตอรี่ Water-based แบบใหม่ ที่ใช้ของเหลวชนิดพิเศษ ในการรับส่งประจุไฟฟ้า ซึ่งทำให้ไม่เกิดการระเบิด เคล็ดลับของมันคือ เกลือความเข้มข้นสูง ที่เป็นชั้นป้องกันชั้นต่างๆ ไม่ให้ ขั้วไฟฟ้า (Electrodes) มาสัมผัสกัน ทำให้ปลอดภัย ไม่เกิดการระเบิด และมีแรงดันไฟฟ้า 4V เพียงพอต่อการใช้งานอีกด้วย
ถึงจะปลอดภัยมากขนาดไหน แต่ก็มีปัญหาที่ยังไม่สามารถนำมาใช้งานได้ในตอนนี้ นั่นก็เพราะว่า มันมีอายุการใช้งานที่สั้นมาก ทำการชาร์จได้เพียง 70 รอบเท่านั้น ถือว่าน้อยมากๆ หากเทียบกับแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน (Lithium-ion) ที่กว่าตัวแบตฯ จะเสื่อม ก็ปาเข้าไป 1,000 กว่ารอบ หรือมากกว่านั้น
คงต้องให้เวลานักวิทยาศาสตร์วิจัย และพัฒนาให้มันมีอายุการใช้งานที่ยาวกว่านี้ ไม่แน่นะว่า อีกไม่กี่ปี อุปกรณ์ใหม่ๆ ในอนาคต อาจจะเปลี่ยนมาใช้เจ้าแบตเตอรี่แบบใหม่นี้ก็ได้ ไม่ว่ายังไงก็ตาม นี่ก็เป็นความสำเร็จ ที่จะเพิ่มความปลอดภัยในการใช้อุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ให้กับเรา
เกร็ดสาระน่ารู้ : สาเหตุที่ทำให้เกิดการระเบิด ในแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน (Lithium-ion) หลักๆ มีอยู่ 3 กรณี 
  1. ชาร์จด้วยกระแสไฟฟ้า สูงเกินกว่าขีดจำกัดของตัวแบตเตอรี่
    : การนำ อะแดปเตอร์ ที่ไม่ใช่ของตัวมันเองมาชาร์จ มีสิทธิ์ทำให้แบตฯ ระเบิดเหมือนกันนะ!
  2. เกิดความร้อนที่แบตเตอรี่มากเกินไป มักเกิดตอนชาร์จแบตเตอรี่
    : พฤติกรรมการชาร์จไป เล่นไป ก็เป็นการเพิ่มความร้อนให้แก่ตัวแบตฯ
  3. เกิดการช็อตที่ระหว่างขั้วบวก (+) และ ขั้วลบ (-) ของแบตเตอรี่
    : อันนี้เห็นได้บ่อย จากแบตเตอรี่คุณภาพต่ำ ราคาถูก ไม่แนะนำให้ใช้

ที่มา : www.engadget.com , phys.org

ซีอีโอ Google, Apple และ Facebook จับมือกันปกป้องแรงงานเด็กที่เข้าเมืองแบบผิดกฏหมาย

ซีอีโอ Google, Apple และ Facebook จับมือกันปกป้องแรงงานเด็กที่เข้าเมืองแบบผิดกฏหมาย



ซีอีโอของบริษัทไอทีชั้นนำหลายบริษัทในซิลิคอนแวลลีย์ กว่า 300 บริษัท รวมถึง Google, Facebook หรือ Apple ได้ร่วมเซ็นต์ชื่อในจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดีดอนัลด์ ทรัมป์ เพื่อต่อต้านไม่ให้ยกเลิกกฏหมาย DACA ที่คุ้มครองเหล่าแรงงานเด็กที่ลักลอบเข้าเมืองมาอย่างผิดกฏหมาย
ย้อนไปในปี 2012 รัฐบาลของสหรัฐอเมริกาได้อนุญาตให้เด็กที่ถูกพาเข้าเมืองมาอย่างผิดหมาย (ที่นั่นจะเรียกกันว่า Dreamers) รับใบอนุญาตทำงาน (Work permits) อย่างถูกกฏหมายได้ ภายใต้ข้อตกลงที่มีชื่อว่า Deferred Action for Childhood Arrivals หรือ DACA
แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทรัทป์ได้มีความต้องการที่จะยกเลิกข้อกฏหมายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้ที่เป็น Dreamers ซึ่งปัจจุบันมีผู้จดทะเบียนอยู่ประมาณ 780,000 คน โดยนโยบายของทรัมป์จะไม่อนุญาตให้ Dreamers ได้รับการอนุมัติงานใหม่เพิ่มเติมหลังจากที่งานปัจจุบันหมดสัญญาลง ซึ่งท่าทีของทรัมป์ในครั้งนี้เป็นหนึ่งในคำสัญญาที่ทรัมป์เคยให้ไว้เมื่อตอนหาเสียง
ใจความส่วนหนึ่งของจดหมายเปิดผนึกได้ระบุว่า "หากยกเลิกข้อตกลง DACA วัยรุ่นที่ขยันทำงานจำนวน 780,000 ราย ก็จะเสียสิทธิในการทำงานอย่างถูกกฏหมายภายในประเทศ และทุกคนก็จะเสี่ยงต่อการถูกเนรเทศ GDP ของเศรษฐกิจจะเสียหายเป็นมูลค่าได้ถึง $460,300,000,000 รวมไปถึงเงินประกันสังคมและค่ารักษาพยาบาลอีก $24,600,000,000"




วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2560

ระบบกล้องสแกน 3 มิติ

Sony เปิดตัว Xperia XZ1 และ XZ1 Compact มาพร้อม Android O และระบบกล้องสแกน 3 มิติ

ล่าสุดได้ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Xperia XZ1 และ Xperia XZ1 Compact โดยเป็นรุ่นที่จะมาแทนที่ XZ และ X Compact ที่เปิดตัวในปีที่แล้ว ทั้งคู่มาพร้อมกับ Snapdragon 835 และแรมขนาด 4GB ซึ่งทั้งคู่เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในท้องตลาดที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo ตั้งแต่แกะกล่องทั้งคู่มาพร้อมกับกล้องหลัง 19MP ใส่เทคโนโลยี Sony Motion Eye ที่ก่อนหน้านี้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในรุ่น XZ Premium เมื่อไม่นานมานี้ และยังมี Predictive Capture ที่บันทึกภาพล่วงหน้าก่อนที่เราจะกดชัตเตอร์ได้อีกด้วย ลูกเล่นในบันทึกวีดีโอแบบ 4K และ การถ่าย Super slow motion 960fps ที่ 720p ก็มีมาให้อย่างครบถ้วน ระบบกันสั่นสามารถใช้งานได้ในโหมดวีดีโอ แต่ภาพนิ่งยังไม่สามารถใช้งานกันสั่นได้เหมือนเดิม ในส่วนของกล้องหน้า XZ1 จะให้มี 13MP ส่วน XZ1 Compact จะให้มา 8MP

อ่านต่อได้ที่ :  https://news.thaiware.com/11228.html